อาจารย์ศรีศักร วัลลิโภดม
การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในอดีตนั้น จะเลือกพื้นที่ที่มีสิ่งแวดล้อมเหมาะแก่การดำรงชีพ ที่ใดมีผลิตผลตามธรรมชาติอย่างเพียงพอ มีสภาพอากาศดี มีอุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมมีนน้ำกินน้ำใช้สมบูรณ์มนุษย์จะตั้ง ถิ่นฐานอยู่อาศัยกันหนาแน่น และเมื่อมีจจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆจะมีผลกระทบต่อสิ่แวดล้อมตามธรรมชาติ เพราะถ้ามนุษย์รู้จักแต่จะใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ไม่สนใจในการบำรุงดูแลรักษา ก็จะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติมีแต่ความ เสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ
Hagget and Chorley (1967) ฮักแก็ต และ คลอรีย์ นักภูมิศาสตร์กล่าวว่า การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่าง มนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับสภาพแวดล้อม แหล่งการตั้งถิ่นฐานคือรูปแบบที่มองเห็นได้ชัดเจนจากลักษณะภูมิประเทศ เป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพื้นที่ในอดีต ในด้านของการเชื่อมโยงระหว่างสภาพแวดล้อมทางด้านกายภาพ และทรรศนะการครอบครองพื้นที่
Braek and Webb (1968) เบรก และ แวบบ์ ซึ่งเป็นนักภูมิศาสตร์ ได้ให้คำจำกัดความของการตั้งถิ่นฐานว่า หมายถึง เครื่องมือ อุปกรณ์ และความสะดวกสบายต่างๆ ที่มนุษย์คิดขึ้นมา เมื่อตั้งตัวอยู่เป็นหลักแหล่งแล้ว การตั้งถิ่นฐานจึงประกอบไปด้วยตัวมนุษย์ อาคาร บ้านเรือน ทรัพย์สมบัติ ถนนหนทาง ตลอดจน แนวรั้วที่แบ่งแยกเขตอาคารออกจากกัน และรวมไปถึงบทบาทหน้าที่และรูปร่างของแหล่งตั้งถิ่นฐาน เหล่านี้เป็นผลรวมของวัฒนธรรมของแต่ละสังคมซึ่งจะแตกต่างกันออกไป องค์การสหประชาชาติ (UN , 1974) ให้คำจำกัดความว่า การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์หมายถึงองค์กร(Organism) ซึ่งประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นจำนวนมาก หน้าที่อันซับซ้อนภายใต้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ทั้งองค์ประกอบที่มนุษย์สร้างขึ้น และองค์ประกอบทางธรรมชาติ รวมกันเป็นถิ่นที่อาศัยซึ่งมนุษย์ต้องใช้เป็นแหล่งดำเนินชีวิต เลี้ยวดูครอบครัว ประกอบอาชีพ ตลอดจนแสวงหาการกินดี อยู่ดี ทางด้านกายภาพ จิตใจ และสติปัญญา Doxiadis (1976) ดอกซิแอดิส นักผังเมือง ให้คำจำกัดความว่า การตั้งถิ่นฐานหมายถึงการจัดรูปแบบพื้นที่ โดยมนุษย์เพื่อมนุษย์ เพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ และยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นตามลำดับ การตั้งถิ่นฐานมนุษย์ต้องอาศัยมิติของเวลา และสถานที่ เริ่มจากจักรภพ ลงมาถึงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ บรรยากาศ ตัวมนุษย์ และการตั้งถิ่นฐาน มีขนาดตั้งแต่ที่อาศัยชั่วคราว ไปจนถึงกึ่งถาวรและถาวร ดังนั้นการศึกษาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ต้องพิจารณาจากเกณฑ์ 5 ประการ คือ มนุษย์ สังคม สภาพแวดล้อม ที่อาศัย และโครงสร้างพื้นฐานที่ละเอียดอ่อนแต่ละอย่าง และในที่สุดต้องผสมผสานเป็นหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าความหมายของการตั้งถิ่นฐาน มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ซับซ้อน ครอบคลุมมากขึ้น อันเนื่องมาจากการพัฒนาการของการศึกษา และพัฒนาการของการตั้งถิ่นฐานที่เป็นพลวัตร (Dynamic) คือมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และซับซ้อนขึ้นนั่นเอง
|
ขอบคุณข้อมูล : http://web.nso.go.th/en/survey/env/data_env/560920_env12_HumanSettlements.pdf
http://coursewares.mju.ac.th:81/e-learning50/la471/course_chapt_01-1.html | |